แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การดูแลตัวเอง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การดูแลตัวเอง แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วิธีป้องกันการแพ้เครื่องสำอางค์

ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เราใช้แล้วจะปลอดภัย 100% ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนบอกมาว่าไม่แพ้แน่นอนแสดงว่าอันนั้นโกหกเพราะแต่ละคนจะมีการแพ้แตกต่างกันไป บทความนี้ก็จะพูดถึงการป้องกันเพื่อให้โอกาสในการแพ้เครื่องสำอางน้อยที่สุด

ทำอย่างไรถึงจะป้องกันการแพ้เครื่องสำอางค์ได้

- อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมที่อยู่บนผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่เราต้องใช้ หากพบว่ามีส่วนผสมตัวใดที่เคยทำให้แพ้ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้น คอยสังเกตส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ว่าตัวใดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมตัวนั้น

- เมื่อจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ให้ทำการแต้มผลิตภัณฑ์นั้นในบริเวณแคบ ๆ ก่อน หรือที่เรียกว่า mini-patch test เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ โดยการแต้มผลิตภัณฑ์นั้นบนข้อมือด้านใน หรือบริเวณข้อศอกทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วดูว่ามีอาการแพ้เกิดขึ้นหรือไม่

- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรผสมง่าย ๆ ยิ่งมีส่วนผสมมากยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพ้ได้มากขึ้น ด้วยส่วนผสมน้อย ๆ ก็จะทำให้ง่ายในการหาสาเหตุของการแพ้ได้

- ฉีดน้ำหอมในบริเวณเสื้อผ้าจะดีกว่าการฉีดลงบนผิว แล้วรอให้น้ำหอมที่ฉีดบนเสื้อผ้าแห้งเสียก่อนจึงค่อยสวมใส่เสื้อผ้านั้น


- ควรระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับเมคอัพ เนื่องจากจะต้องอยู่บนผิวหน้าเป็นเวลานานระหว่างวัน เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็น hypoallergenic, ปราศจากน้ำหอม, และ non-comedogenic อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากเช่นนี้ก็ยังอาจทำให้เกิดการแพ้ได้

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฉลากผลิตภัณฑ์

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักส่วนผสมแต่ละตัวในผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่ทราบอยู่แล้วว่าจะทำให้คุณเกิดอาการแพ้ เพื่อให้ง่ายขึ้น FDA ได้ระบุให้บริษัทเครื่องสำอางแจงรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ไว้บนฉลาก ไล่ตามความมากน้อยของส่วนผสมแต่ละรายการ โปรดจำไว้ว่า ความลับทางการค้าและส่วนผสมของรสชาติและความหอม นั้นไม่จำเป็นจะต้องแจงรายละเอียด

และอีกประการหนึ่งของฉลากผลิตภัณฑ์ที่ว่า “ไม่มีกลิ่น” หรือ “ปราศจากน้ำหอม” ก็อาจผสมน้ำหอมปริมาณน้อย ๆ เพื่อกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ของส่วนผสมอื่น ๆ ที่เป็นเคมี “ธรรมชาติ” หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากต้นไม้หรือสัตว์ มากกว่าส่วนผสมที่ได้จากสารเคมี ฉลากผลิตภัณฑ์ที่แจงว่า “non-comedogenic” จะต้องไม่มีส่วนผสมที่ทำให้อุดตันรูขุมขนอันอาจทำให้เกิดสิว

ฉลากเครื่องสำอางนั้นเป็นประโยชน์มากเมื่อเราต้องการทราบส่วนผสมต่าง ๆ แต่ควรระวังเรื่องของเจตนาในการอ้างถึงสรรพคุณผลิตภัณฑ์ เช่น มีผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัวที่แจงว่าเป็น Hypoallergenic เพื่อจะบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นที่คล้าย ๆ กัน ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ แต่บริษัทผู้ผลิตนั้นไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนั้น อีกประการหนึ่ง ฉลากผลิตภัณฑ์ที่แจงว่า “organic” นั้นไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ จำไว้ว่า ไม่มีเครื่องสำอางใดที่สามารถรับประกันได้ว่าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย

- รักษาความสะอาดให้ดีอยู่เสมอ ทำความสะอาดมือและผิวหน้าก่อนการใช้เมคอัพทุกครั้ง

- ไม่ควรใช้เมคอัพร่วมกับผู้อื่น

- หากต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ในร้าน พยายามขออุปกรณ์ช่วยทาอันใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้ และบอกพนักงานขายให้เช็ดทำความสะอาดผลิตภัณฑ์สำหรับทดลองด้วยแอลกอฮอล์

- ปิดขวดหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องสำอางให้แน่นสนิท ไม่ให้สัมผัสกับฝุ่นและสิ่งสกปรก หลังจากเปิดใช้แล้ว

- เก็บเครื่องสำอางให้พ้นจากความร้อนและแสงแดด

- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา หากมีการติดเชื้อที่ดวงตา แต่หากมีการใช้ในช่วงที่ติดเชื้อให้หยุดใช้แล้วทิ้งเครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตานั้น ๆ ทิ้งไป แล้วใช้ของใหม่เมื่อการติดเชื้อที่ดวงตาหายดีแล้ว

- ทิ้งผลิตภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนของสีหรือกลิ่น เพราะนั่นอาจหมายถึงสารกันเสียที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไม่อาจป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้อีกต่อไป หรือสารกันเสียหมดอายุแล้วนั่นเอง

- หากผลิตภัณฑ์มีความเปลี่ยนแปลงของเนื้อผลิตภัณฑ์ ให้ทิ้งไปเลย

- ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าและอุปกรณ์ในการแต่งหน้าอยู่เสมอทุกสัปดาห์

ขอบคุณเนื้อหาดีๆ จาก
http://www.acnethai.com/

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ผู้ชาย 14 ประเภทที่ผู้หญิงร้องยี๊........ !!!

จากการประมวลความคิดและประสบการณ์ของความเป็นผู้หญิง งานนี้คุณผู้ชายต้องพิจารณาตัวเอง ว่าคุณเข้าข่ายประเภทไหนนะคะ ?

อันดับ 1. ผู้ชายขี้ซ้อม ผลโหวตออกมาชนะขาดลอย ! เป็นอันดับที่ผู้หญิงเราร้องยี๊มาอันดับหนึ่งว่า ยังไง๊....ยังไงก็รักไม่ลง ผู้ชายอย่างนี้ อยากหนีห่างไปให้ไกลสักร้อยไมล์ เอะอะก็ใช้กำลังตัดสิน ฉุดกระชากลากถูเราอย่างแรงกลางห้าง หน้าป้ายรถเมล์ หรือที่ไหนก็ตามแต่ ขนาดที่สาธารณะยังกล้าทำอย่างนี้ แล้วในที่รโหฐานจะทำขนาดไหน แค่เรามีปากเสียงนิดหน่อย ก็ตวาดเรา (ถึงแม้บางที เราจะขี้โวยวาย ไร้เหตุผลไปบ้างก็เหอะ แต่นี่ก็เป็นธรรมชาติของผู้หญิงเรานี่นา)

ไม่ใช่ว่าคุณจะใช้กำลังกับเราได้นะคะ อย่าลืมว่าพวกเราก็บอบบาง (ถึงแม้จะแสนห้าว) แต่เราก็สู้แรงของพวกคุณไม่ได้หรอก หลายคู่ที่รักกันเป็นแฟนกันแล้วก็มี แต่การที่คุณผู้ชายชอบซ้อมเรา อาจทำให้เราต้องตาสว่างขึ้นสักวัน พานเอาหมดรักกันได้ง่ายๆ อย่าโกรธกันเลย ถ้าสักวันพวกเราต้องลุกขึ้นมาเอาคืนเหมือนหนังเรื่อง Enough ทีสาวเจนนิเฟอร์ โลเปซแสดงไว้เมื่อหลายปีก่อน ลองไปหาดูซะแล้วคุณอาจจะเข้าใจผู้หญิงอย่างเรามากขึ้

อันดับ 2 . ผู้ชายใจตู๊ดดดดด....(ดูดเสียงแบบขอเซ็นเซอร์ค่ะ) อันนี้ความตู๊ดดดดด.....มีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนถึงปริญญาเอก (ขั้นนี้จะมีระดับความเป็นตู๊ดดดดดด.....สูง) เราไม่ได้หมายถึงเพศที่สามแต่อย่างใด แต่หมายถึงผู้ชายที่มีนิสัยของผู้หญิงอยู่ในตัวและในกระแสโลหิตสูง คือยังชอบผู้หญิงนะ ไม่ได้เบี่ยงเบนทางเพศ แต่พฤติกรรมและนิสัยไม่แมนเอาซะเรยย์

ถ้าเป็นระดับอนุบาลก็ยังพอทน เพราะจะแค่จุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น ช่างซัก ช่างถาม พูดมาก ขี้อิจฉา ไม่เจ้นท์ (Gentleman คือไม่เป็นสุภาพบุรุษ ประมาณ ขึ้นรถเมล์แล้วแกล้งหลับ แย่งผู้หญิง เด็ก และคนชรานั่ง แบบโฉบวิ่งไปนั่งตัดหน้าไปเลย) คิดเล็กคิดน้อย ขี้น้อยใจ (ทั้งที่ศีรษะก็ยังไม่ล้านสักกะหน่อย) อารมณ์อ่อนไหวง่าย แค่ดูซีรี่ย์เกาหลีน้ำตาก็ไหลพรากๆ ซะจนเราที่นั่งดูน้ำตาซึมอยู่ข้างๆ ชักเอะใจว่า แมนจริงป่าวเนี่ย ?

จนไปถึงระดับปริญญาเอกคือ ชอบเอารัดเอาเปรียบพวกเรา เอาผู้หญิงไปเม้าท์ลับหลัง ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง (หรือจะเม้าท์พวกเราต่อหน้าก็ไม่ได้นะคะ เพราะมันไม่แมนค่ะคุณ) อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเรารับไม่ได้มากๆ กับผู้ชายขี้นิน (ทา) ผิดบทบัญญัติของความเป็นบุรุษ (ที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงความสุภาพ) อย่างรุนแรง ชนิดที่เราอภัยให้ไม่ได้ ข้อหาร้ายแรงพอๆ กับทำร้ายร่างกาย นี่ยังไม่รวมถึงหัวข้อที่พวกคุณเอาพวกเรามาเม้าท์นะคะ อย่างเรื่องการแต่งตัว การวางตัว การทำงาน และความรัก บางคนก็เลือกที่จะประจานเราโดยแกล้งพูดถึงเราเสียงดังๆ กลางออฟฟิศ หรือที่สาธารณะให้เราเกิดความอับอาย ไม่ว่าจะเพื่อผลประโยชน์ทางหน้าที่การงาน หรือเพื่อแก้แค้นส่วนตัวก็ตามแต่ หรือบางคนเอาพวกเรามาเม้าท์ถึงเรื่องในมุ้ง หยาบคายที่สุดค่ะ เราอยากบอกว่านิสัยอย่างนี้ผู้ชายดีๆ เค้าไม่ทำกันหรอกค่ะ

อันดับ 3 . ผู้ชายโชว์พราว อารมณ์แบบว่า "ข้าเสน่ห์แรงนะ " ปลาบปลื้มตัวเองอย่างออกนอกหน้า เอ่ยปากชมตัวเองเปาะอย่างไม่อายปากต่อหน้าผู้หญิงว่า" ผมน่ะผ่านมาเยอะ มีแต่ผู้หญิงยอมสยบอยู่แทบเท้าผมมานักต่อนัก ขนาดสลัดไปแล้วก็ยังต้องกลับมาหาผมอีก" "ชีวิตผมไม่เคยว่างเลย ดูสิเนี่ยโทรมาอีกแระ" พูดอย่างนี้เหมือนคุณจะให้พวกเรายอมเป็นตัวเลือก เป็น Choice อีก Choice หนึ่งของคุณ ฝันไปเถอะค่ะ!!!! โลกทั้งโลกไม่ได้มีแค่คุณเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าแบบที่แมน 100 % จะเหลือน้อยก็ตามที ผู้หญิงเรา 100 ทั้ง 100 ก็เอือมระอากับผู้ชายอย่างนี้เต็มทน !!! ถ้าคุณอยากโชว์พราวจริงๆ เราพร้อมที่จะส่งคุณไปอยู่ดาวศุกร์ ไปโชว์พราวซะให้พอเลยค่ะ !!!

อันดับ 4. ผู้ชายแอ๊บแบ๊ว ไม่ใช่ผู้หญิงเราเท่านั้นที่มีจริตแบบ 100 เล่มเกวียน ผู้ชายแบบนี้ก็มีอยู่ในโลกค่ะ ชอบมาทำหน้าซื่อตาใส บ๊องแบ๊ว (ทางปัญญา) ว่า "อ้าว จริงหรอ ผมต้องซื้อดอกไม้ให้คุณหรอ ?" "อ้าว ผมต้องเลี้ยงข้าวคุณหรอ ?" "อ้าว ผมต้องขอโทษคุณ ต้องง้อคุณก่อนหรอ ?" คำพูดเหล่านี้ทำให้พวกเรารู้สึกว่าพวกคุณกำลังดัดจริตอยู่ค่ะ เห็นแล้วมันคันไม้ คันมือ อยากสะบัดปลายเล็บเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลาของพวกคุณสักป๊าบ สองป๊าบ เผื่อความแบ๊วจะกระเด็นหลุดออกจากสมองของคุณซะบ้าง !!!

อันดับ 5. ผู้ชายพันธุ์ Me สะกดคำว่า "ให้" ไม่เป็น เหมือนพจนานุกรมของคุณไม่เคยมีคำๆ นี้มาก่อน ถ้าคุณ "ให้" นั่นก็คือคุณกำลังหว่านพืชเพื่อหวังผล มองว่าความรักเป็นเรื่องของธุรกิจ เป็นเกมที่คุณต้องชนะ หรือตักตวงผลประโยชน์ไปให้คุ้มกับที่คุณจ่ายไป ผู้ชายประเภทนี้จะไม่รู้จักคำว่า "น้ำใจ" ประหนึ่งว่าโลกนี้มีแค่เค้าคนเดียว เป็นมนุษย์พันธุ์ Me คือมีแต่ตัวเอง ห่วงแต่ตัวเอง แค่เรื่องง่ายๆ อย่างการหยุดรถให้คนข้ามถนนแค่ไม่ถึง 1 นาที คุณยังไม่ยอมเล๊ย... นับประสาอะไรกับการเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น บางคู่พอเป็นแฟนกันแล้วก็แสดงความเห็นแก่ตัวแบบมนุษย์พันธุ์ Me ออกมา อย่างเช่น เก๋ พนักงานบริษัทเล่าว่า"เคยไปทานข้าวกับแฟนใน Food Court แล้วแฟนหนุ่มก็ซื้อน้ำมาเฉพาะแต่ของตัวเอง พอถามไปว่าไม่ได้ซื้อมาเพื่อหรอ ก็ดั๊นมาย้อนบอกเราหน้าตาเฉยว่าก็ไปซื้อกินเองสิ" บางคนก็เหมือนหลอกเราไว้เป็น Maid ประจำ บ้าน ใช้ให้เราทำความสะอาดบ้านให้ทุกวี่วัน เราก็หลงกลทำให้เพราะความรักกำลังบังตา รากราคะกำลังออกฤทธิ์ พอใช้เราเสร็จสมใจก็ "เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ ไม่ต้องมา เราไม่ว่าง" บ้างที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ก็หลอกให้เราทำรายงานให้ ขืนหลงกล แต่งงาน อยู่กินกับผู้ชายประเภทนี้ พวกเรามิต้องหาเลี้ยงคุณ กลายเป็น "ทาสีภริยา" ไปตลอดหรือ ? ( ตามหลักศาสนาพุทธ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของสามี - ภริยา 4 ประเภท "ทาสีภริยา" คือ ความสัมพันธ์ ที่ภรรยาเป็นเยี่ยงทาส ไม่มีปากเสียง ต้องคอยอยู่รับใช้สามี ถึงจะน้ำตาเช็ดหัวเข่าก็ต้องทน ประมาณว่าจะต้องกราบเท้าทุกคืนก่อนประมาณนั้น) นี่ถ้าเกิดว่า มีคนเอาปืนมายิงคุณ คุณคงกระชากเอาตัวเราเข้าเป็นโล่รับกระสุนแทนคุณเป็นแน่ ! อย่าลืมซิคะ ว่า "มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" ถ้าคุณเป็นมนุษย์เราก็ขอแนะนำให้คุณแบ่งปันกันบ้างสักกะนิด ไม่ใช่แค่เฉพาะกับเรา แต่กับเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ก็เช่นกัน คุณก็คงไม่ตายวันนี้ พรุ่งนี้หรอกจริงม๊ะ ?

อันดับ 6. ผู้ชายหลงเงา ผู้ชายประเภทนี้จะขี้โอ่ ชอบอวดภูมิ บางทีไม่รู้อะไรหรอก แต่ชอบโชว์พาว (เวอร์ ) ฟอร์มจัด เก๊กเท่ แบบว่าผมเก่ง เก่งไปซะทุกเรื่อง ใครคุยอะไรก็คุยกับเค้าไปซะทุกเรื่อง แทบจะเป็นพหูสูตรอยู่แล้ว ผู้ชายพวกนี้จะหลงตัวเอง ไปจนถึงงมงายชื่นชมแต่เพศของตัวเอง บางคนอาการหนักจนถึงขั้นเป็นโรคจิตได้ ทางการแพทย์เค้าเรียกว่า โรค Narcissism ค่ะ เรารู้ว่าคุณคือเพศที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ แต่เราอยากแนะนำพวกคุณว่า โง่บ้างก็ได้ค่ะ เงียบบ้างก็ดี โลกนี้ไม่มีใครรู้อะไรไปหมดทุกอย่าง เวลาที่คุณพลั้งพลาดไปบ้างโดยไม่ตั้งใจ เราก็พร้อมให้อภัย คอยยืนเคียงข้าง และส่งสายตามองคุณอย่างเอ็นดูไม่ใช่เยาะเย้ย เวลาที่พวกคุณเขินอายน่ะ น่ารักดีออก !

อันดับ 7. ผู้ชายมิดชิด ปิดบังกันซะเรื่อย ชอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ มีลับลมคมใน ปั้นน้ำเป็นตัวกันเป็นตัวๆ เลยทีเดียว แบบจับให้มั่นคั้นให้ตายยังไงก็ยังไหลไปได้ซะดื้อๆ เมื่อกี๊เพิ่งรับสายจากแฟนเก่าอยู่แหม๊บๆ ยังมาบอกว่าไม่ใช่ พอเราบอกว่ารู้นะว่านี่เบอร์แฟนเก่าเธอ ก็ไหลไปว่าไม่มีอะไร ทั้งๆ ที่นัดกันไปดูหนัง กินข้าว ซื้อของกับเค้าเนี่ยนะ พอทางโน้น โทรมาให้ไปรับก็ไปทันที พอรู้ว่าเราจับได้ ก็ยังมาใช้ลมปากมายกยอว่า ไม่เคยทำให้ใครเท่าทำให้เรา ไม่เคยให้ใครยุ่งมือถือ เธอนี่แระคนแรก หรืออย่างบางคนก็ไม่นิยมเปิดเผยความสัมพันธ์ สั่งเสีย เราซะดิบดีว่า" อย่าบอกใครนะว่าเราคบกัน อย่าบอกใครนะว่าเราไปดูหนังด้วยกัน เจอกันในออฟฟิศก็ทำเป็นไม่รู้จักกันนะ กลัวเธอเสียชื่อน่ะ" เชอะ ! เราไม่หลงกลค่ะ ถ้าชีวประวัติคุณ มันไม่ใสสะอาดขนาดนี้พวกเราก็คงต้องขอบาย แล้วตะโกนใส่หน้าคุณดังๆ ว่า "ชั้นไม่ใช่ภรรยาเก็บของคุณนะ !"

อันดับ 8. ผู้ชายหนวดปลาหมึก ชอบแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าประชาชี คนรักกันไม่จำเป็นต้องแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้นมั้งคะ โอบไหล่ โอบเอว และโอบต่ำไปเรื่อยๆ มันเป็นภาษากายที่ใครๆ เค้าจะตีความหมายไปถึงไหนต่อไหน นั่งอยู่ข้างๆ กันก็ยังเอามือมาจับ มาพาดที่ขาอ่อน อย่างนี้เค้าเรียกไม่ให้เกียรติกัน ถึงผู้หญิงเราจะนิ่งเฉย ไม่บ่นว่าอะไร แต่บางคนเค้าก็อึดอัดกับการกระทำของคุณ ไม่ใช่ว่าเค้าชอบหรอกนะคะ ผู้ชายบางคนก็ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง ป่าวประกาศอย่างเต็มที่ว่า "ผู้หญิงคนนี้ของข้า" ห้ามนั่น ห้ามนี่เราไปหมด ห้ามคุยกับคนอื่น เห็นเราคุย MSN ก็ไม่พอใจ ห้ามไปเที่ยวกับเพื่อน เพื่อนผู้หญิงก็ไม่ได้ อยู่ที่ไหนทำอะไรต้องรายงานตลอด อันนี้ผู้หญิงบางคนที่รักอิสระก็ไม่ชอบหรอก "แฟนนะคะ ไม่ใช่พ่อ" ขอพื้นที่ให้เราได้หายใจบ้าง รักกันมากไปมันจะกลายเป็นอึดอัดเอานะคะ

อันดับ 9. ผู้ชายเกลือสมุทร งกไปซะทุกเรื่อง เค็มซะแปซิฟิกเรียกพี่ แอนตาร์กติกเรียกพ่อ อย่างนี้เราก็ไม่ปลื้ม ! เวลาไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันคงทะเลาะกันตาย ยิ่งถ้าไปช็อปปิ้ง เดินห้างด้วยกันแล้ว คงได้เดินทางใครทางมันก็คราวนี้ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงน่ะขี้ช็อป อะไรสวยๆ งามๆ หน่อยก็แตกแบงค์กระจาย เบรกๆห้ามๆ กันบ้างก็ไม่ว่า แต่ไม่ใช่จะเบรกเรื่องของเราไปซะทุกสิ่งอัน ทีจะเลี้ยงไอติมแท่งเราสักแท่งยังยากเลย เหรียญสลึงซักบาทยังไม่กระเด็น จะเก็บตังค์ไว้เผากงเต๊กตัวเองหรอค่ะ

อันดับ 10. ผู้ชายขี้อ่อย ชาติก่อนคงเกิดเป็นช่างทำสะพานหรือไม่ก็เป็นชาวนามาก่อน ทั้งอ่อย ทั้งทอดสะพาน ทั้งหว่านเค้าไปทั่ว ต้นกล้าขึ้นตรงไหนก็ไปเก็บตรงนั้น ไม่ขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะหว่านเมล็ดไป 10 มันก็ต้องโตสัก 7 ล่ะว้า เห็นใครน่ารักเป็นไม่ได้ จีบดะ หรือว่าเพราะเห็นพวกเราเป็นประชากรจำนวนมาก และพวกคุณคือประชากรจำนวนน้อย จึงทำให้คุณหยิ่งทะนงว่ายังไงเราก็ต้องตกหลุมคุณเป็นแน่ ถึงได้ทำตัวแบบว่า "รักนะแต่ผมไม่จริงจัง" ชอบหว่านเสน่ห์เค้าไปทั่ว พอผู้หญิงเราหลงกลเริ่มจะจริงจังด้วย ก็ชิ่งหนี "ผมไม่ผิดนี่ คุณมาหลงผมเอง" หรือ "ผมรักคุณแบบเพื่อน หรือ แบบน้องสาวเท่านั้น" แล้วคุณจะมาหว่านตั้งแต่ต้นทำไมคะ ? หรือว่าแค่บริหารเสน่ห์ ?

อันดับ 11. ผู้ชายปากเสีย อย่างนี้น่าจะเอาปากไปเข้าอู่ซ่อม หรือ ฝากหมอฟันรักษาสัก 5 เดือน ผู้ชายอย่างนี้จะชอบแกว่งปากหาเสี้ยน ชอบทำลายบรรยากาศ กัดแขวะพวกเราและคนรอบตัวได้ซะทุกเรื่อง ถ้าพวกเราทำใจรับข้อเสียข้อนี้ของคุณได้ ก็โอเคในระดับนึง แต่อย่าลืมว่าพวกเราก็ยังมีญาติพี่น้องของเราอีก ถ้าคุณมีโอกาสไปพบพวกเค้า ก็อย่าเผลอเอาสุนัขออกมาให้อาหารข้างนอกก็แล้วกัน

อันดับ 12. ผู้ชายเรื่องมาก พวกเราก็ไม่รู้ว่าทำไม คุณถึงได้ขี้หงุดหงิด ไม่พอใจอะไรไปซะทุกเรื่อง กะแค่เรื่องไปขึ้นรถอะไรไปดูหนังดี ยังเป็นเรื่องที่เราต้องทะเลาะกันทุกครั้ง พวกเราแค่อยากขึ้นรถตุ๊กตุ๊กบ้างบางที คุณก็ทิ้งเราให้ขึ้นไปนั่งคนเดียว แล้วคุณก็เดินจากไปนั่งแท็กซี่ซะงั้น ไม่มีคำพูดคำจาใดใด ทิ้งให้เราเก้อซะงั้น ... ไปทานข้าวด้วยกัน แค่เรื่องร้านอาหารก็เป็นปัญหา เพราะคุณไม่ชอบทานร้านนี้ แค่เลือกร้านก็ล่อไป 3 ชั่วโมง พอไปถึงก็ "นี่ก็ไม่อร่อย บริการก็ช้า ร้านไม่สะอาด ......." จะบ่นทำไมคะ กะเรื่องบางเรื่องขนาดเราเป็นผู้หญิง เรายังไม่เรื่องมากเท่าคุณเลยนะเนี่ย !

อันดับ 13 . ผู้ชายคอสเมติก ก็เข้าใจว่าผู้ชายรุ่นใหม่จะเจ้าสำอาง ชอบคอยบำรุงผิวพรรณ หน้าตา เนื้อตัวให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา จะเรียกว่า Metro Sexual ก็คงไม่ผิด คุณจะหน้าเด้ง แต่งตัวเนี๊ยบเป็นคุณชายออกจากบ้านเราก้อไม่ว่าค่ะ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงไปคลุกฝุ่น คุณก็ช่วยอย่าสะดีดสะดิ้ง ทำเป็นกลัวสกปรก กลัวเปื้อน กลัวเหงื่อออกได้ไหมคะ ช่วยเอาเท้าของคุณลงมาแตะพื้นทีเถอะ บางทีเราก็รู้สึกว่าเราออกจะบึกบึน มาดแมนมากกว่าคุณซะอีก !!!

อันดับสุดท้าย ผู้ชายป๊ะป๋า พวกเราก็มีมือ มีเท้าค่ะ สามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเอง เวลาที่คุณบุญทุ่มมากๆ เราก็แอบหวั่นอยู่ลึกๆ ว่าคุณหวังอะไรจากเรารึเปล่า ? ทั้งน้ำหอม รองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ของแบรนด์ต่างๆ ยังไม่รวมโทรศัพท์รุ่นล่าสุด ถ้าคุณต้องการความจริงใจจากเรา ช่วยเข้ามามือเปล่าและช่วยมาอย่างขาวสะอาดได้ไหมคะ ?
และนี่คือ 14 อันดับของผู้ชายที่พวกเราร้องยี๊....!!! แต่อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไม ผู้ชายเพลย์บอยถึงไม่ติดอันดับ ? เพราะน่าแปลกที่ว่าผู้หญิงอย่างเราก็ยังชอบผู้ชายเจ้าชู้อยู่วันยังค่ำ ด้วยหวังว่าสักวัน คุณจะกลับตัวกลับใจเลิกเป็นเพลย์บอยเพื่อเราสักที ! หรือว่ามีสาวหรือหนุ่มคนไหน ไม่เห็นด้วยกับเราก็ช่วยบอกทีเถอะค่ะ

แล้วหนุ่มๆ ข้างกายของคุณติดอันดับกันบ้างรึเปล่าค๊า......

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

ใส่ใจผิวพรรณ
การดูแลผิวหน้าในแต่ละวัย ย่อมแตกต่างกันตามสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ยังเป็นสาวหน้าใส ผิวพรรณเต่งตึง การทาแค่ครีมกันแดด และล้างหน้าด้วยเคลนเซอร์สูตรอ่อนโยนก็อาจจะเพียงพอ แต่เมื่อวัยมากขึ้นรอยตีนกาเริ่มมาเยือน ผิวหน้าที่เคยเนียนใส กลับดูแห้งหรือหยาบมากขึ้น การเลือกผลิตภัณฑ์และการดูแลผิวอาจจะดูยุ่งยาก และต้องใส่ใจกันมากขึ้น เพราะปัญหาของผิวจะเริ่มปรากฎมากขึ้นนั่นเอง

วัย15-20
การดูแล : วัยรุ่นกับสิวเป็นของคู่กันเสมอ สิวในช่วงนี้มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ และมีตัวก่อกวนอื่น ๆ ร่วมด้วยเช่น การแคะ แกะ หรือบีบสิว รวมทั้งความเครียดและอดนอนจริง ๆ แล้วสิวที่เกิดขึ้นมักหายไปเองตามธรรมชาติถ้าเราไม่ไปกดสิว ปัญหารอยดำและการอักเสบก็จะไม่เกิดขึ้น แต่หากไม่หาย ก็ปรึกษาคุณหมอเถอะค่ะ การดูแลผิวในวัยสาวน้อย ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ วันละ 2 ครั้งก็พอ และหลีกเลี่ยงเคลนเซอร์หรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์เพราะค่อนข้างแรงกับผิวอาจทำให้ผิวใส ๆ ดูกร้านก่อนวัยได้
วัย 20 ปีขึ้นไป
การดูแล : ปัญหาเรื่องสิว จะลดน้อยลง ยกเว้นในคนที่ผิวมัน ที่อาจมีเม็ดสิวเป้ง ๆ ให้รำคาญใจได้ หรือคนที่มีฮอร์โมนเพศสูงก็อาจมีสิวโผล่อยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ในช่วงสาววัย 16 ได้ดีบางครั้งอาจจะไม่เหมาะกับสาววัยนี้ก็เป็นได้ เนื่องจากผิวหน้าที่เคยอ่อนใสอาจดูหมองคล้ำหรือแห้งกร้านได้ตามวัยที่มากขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายและเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่งมากขึ้นและไม่ลืมทาครีมป้องกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพราะแสงแดดจะทำให้ริ้วรอยมาเยือนผิวได้เร็วขึ้น ป้องกันไว้ดีกว่าแก้แน่นอนค่ะ

นอกจากนี้การใช้ AHA จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ครีมกันแดดทุกวัน และหากเลี่ยงแดดแรง ๆ ได้ก็ควรทำค่ะ หรือจะเลือกการขัดผิวด้วยครีมขัดผิวซึ่งผลิตมาเพื่อใช้กับผิวหน้าที่บอบบางก็สะดวกดีค่ะ วิธีขัดผิวที่ถูกต้อง ควรทำหลังจากทำความสะอาดหน้าแล้วแต้มเจลหรือครีมขัดผิวลงบนผิวหน้า 5 จุดคือ บริเวณหน้าผาก แก้มทั้งสองข้างจมูก และคาง เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนางซึ่งมีแรงกดค่อนข้างเบานวดเป็นวงกลมไปในทิศเดียวกัน จะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอก ทำให้ผิวหน้านวลผ่องสดใสขึ้น ทำสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ หลังจากขัดผิวแล้วอย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้ง ซึ่งการขัดผิวจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมสู่ผิวได้ล้ำลึกขึ้น

วัย 30 ปีขึ้นไป
การดูแล : ผิวหน้าของสาววัยนี้ จะมีปัญหาของริ้วรอยใต้ตา โดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม รอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก จะเริ่มปรากฎชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่ง สดใสก่อนหน้านี้ ก็จะเริ่มขาดความยืดหยุ่น ผิวหน้าจะดูหยาบกร้านขึ้น รูขุมขนโตขึ้น การดูแลผิวจึงต้องครบเครื่องมากขึ้น ทั้งการขัดผิวและมาสค์หน้า จะช่วยขจัดการหลุดลอกของผิวชั้นนอก และช่วยดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างจากรูขุมขนส่วนลึกได้ดี ทำให้หน้าสะอาดกระชับและสดใสขึ้น และสำหรับผิวหน้าที่เริ่มมีริ้วรอย ควรเลือกมาส์คที่มีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลังการพอกหน้าและล้างสะอาดแล้ว จะทำให้หน้าผ่อง เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการเลือกครีมบำรุงผิวของสาววัยนี้ ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นพิเศษ เพราะผิวหน้าจะเริ่มแห้งมากขึ้น น้ำหล่อเลี้ยงผิวหน้าตามธรรมชาติผลิตน้อยลง และควรเลือกชนิดเนื้อเบาเพื่อไม่ให้ไปอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้การใช้อายเจลหรืออายครีมก็จะช่วยทำให้ผิวรอบดวงตา ชุ่มชื้นและสดใสขึ้น ส่วนครีมกันแดด ก็จำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกวัน มาสก์พอกหน้าแบบประหยัดมาสค์พอกหน้าจากโยเกิร์ตล้างหน้าให้สะอาดซับเบาๆ ด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มือแตะโยเกิร์ต (ให้ใช้ชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้) มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลีงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก หมั่นทำสัปดาห์ละ3 ครั้ง ผิวจะเปล่งปลั่งสดใส

มาสค์พอกหน้าจากมะละกอนำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำไปพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่ง มือเป็นบริเวณที่ฟ้องถึงวัยของคุณได้เช่นกัน เนื่องจากเราใช้มือในการหยิบจับสิ่งของอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการสัมผัสกับสารเคมีก็อาจทำให้ผิวบริเวณนี้หยาบกร้าน เกิดริ้วรอย ดูไม่น่ามองได้

วัย 20 ขึ้นไป
การดูแล : ในตอนกลางวัน ควรทาครีมกันแดด เนื่องจากเป็นส่วนที่อาจถูกแสงแดดได้ ส่วนในตอนกลางคืน ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับมือ นอกจากนี้ทุกสัปดาห์ ควรขัดผิวบริเวณมือด้วยครีมสครับสูตรอ่อนโยน เลือกใช้สครับที่ทำมาเพื่อผิวหน้าก็ได้ค่ะ การขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ให้หลุดลอกออก และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน และยังช่วยให้การทาครีมบำรุงผิว ซึมซาบสู่ผิวได้ดีขึ้น

วัย 30 ปีขึ้นไป

การดูแล : เมื่ออายุมากขึ้น ผิวบริเวณนี้จะแห้งและหยาบกร้านมากขึ้น เพื่อชะลอความเหี่ยวย่น การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งมีสารกันแดดด้วย เป็นสิ่งจำเป็นมาก นอกจากนี้ วัยที่มากขึ้น ทำให้การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวโดยธรรมชาติทำได้ช้าลง การขัดผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะจะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสและช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวได้มากขึ้น และหลังจากขัดผิวแล้ว อย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยทุกครั้ง Jeanette Graf ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากนิวยอร์ค แนะว่าการทาครีมบำรุงมือให้ได้ผลดีและไม่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์นั้น ควรทาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเข้านอน และครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอจะช่วยลดเลือนริ้วรอยของผิวได้

หันมาใส่ใจกับการดูแลผิวสักนิดนะค่ะ


วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บั้นท้าย (ก้น) ใครคิดว่าเป็นส่วนที่ไม่สำคัญ

คุณผู้ชายครับ เคยใส่ใจเรื่องก้นของคุณเองบ้างรึเปล่าครับ (อย่าเพิ่งคิดนะครับ ว่าผมผิดปกติอะไรรึเปล่า) เรื่องแบบนี้คุณผู้ชายน้อยคนคงอาจรู้มาบ้าง แต่ผมมั่นใจเลยว่าผู้ชายไทยกว่าร้อยละ 80 ยังไม่มีความรู้ในเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง



รู้หรือไม่ว่า ผู้หญิงเขามองอะไรจากคุณเป็นอันดับต้นๆ นอกจากบุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตา หากแยกเป็นส่วนประกอบของร่างกายคุณคงจะเดากันไม่ออกว่าส่วนไหนที่ผู้หญิงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ผู้หญิงต่างชาติเกินกว่าครึ่ง คุณเชื่อหรือไม่มองที่ก้นผู้ชายก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะเข้าไปทำความรู้จัก

คุณรู้รึเปล่าว่า แบรด พิต ทำไมถึงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วโลก เมื่อคุณออกมาจากโรงหนังเรื่อง Troy ลองย้อนกลับไปฟังเสียงรอบข้างของคุณสิครับ ผมยังจำได้ไม่เคยลืม ผู้หญิงเกือบทั้งโรงหนังต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ ดูก้น แบรต สิน่า…” นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าเสน่ห์ดึงดูด เพียงแค่ฉากนี้ทำให้แบรต พิต กลับมาเป็นขวัญใจของสาวๆทั่วโลกอีกครั้ง คุณอาจจะบอกว่าหน้าตาก็มีส่วน แต่เชื่อเถอะครับ ว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว



ณ ตอนนี้ ค่านิยมการมองบั้นท้ายผู้ชายเป็นอันดับแรก เริ่มเป็นค่านิยมที่ลุกลามมาสู่ผู้หญิงไทย การมองบั้นท้ายชายหนุ่มนั้นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงสามารถพิจารณาได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนดูแลตนเองมากน้อยเพียงใด รวมถึงการใส่ใจในเรื่องที่เล็กน้อย ทำให้เป็นจุดดึงดูดให้ผู้หญิงเข้ามาหาได้มากเช่นกัน

เรื่องก้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดสาวๆ ได้ดีแล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติหากคุณเป็นคนที่มีรูปของก้นสวย นั่นก็คือ คุณเป็นคนที่สามารถใส่กางเกงให้ดูดีได้ เพราะตามสรีระของกางเกง มีส่วนที่ตัดเผื่อไว้สำหรับบั้นท้าย หากคุณเองเป็นคนไม่มีก้น (ที่ถูกเรียกว่า ตูดแฟ๊บ ตูดปอด) หรือมองเห็นคนไม่มีก้นใส่กางเกง คุณก็จะเห็นภาพที่ไม่น่าประทับใจนัก กางเกงก้นย้อยไม่ชวนมอง อีกหนึ่งกรณีคือ คนที่มีก้นย้วย คือไม่มีกล้ามเนื้อบริเวณบั้นท้าย เมื่อใส่กางเกงที่เน้นช่วงก้น อาจจะไม่ชวนมองนัก คุณลองคิดภาพลูกโป่งเด้งไปมาสิครับ คงไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ (ว่ามั้ยครับ)


คอลัมน์นี้ ผมจึงอยากจะนำเสนอท่าบริหารเพื่อสร้างกล้ามเนื้อบั้นท้าย (ก้น) ของคุณ เพื่อเสริมสร้างบุคลิก (ไม่ได้แนะนำเอาไปใช้ประโยชน์ทางอื่นนะครับ อย่าเข้าใจผิด) แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องฝึกทุกวัน ประมาณ 1-2 เดือน คุณก็จะได้เห็นถึงความแตกต่างของบั้นท้ายของคุณเอง

ท่าเหล่านี้คุณไม่จำเป็นต้องมีอุกปกรณ์ใดๆทั้งนั้น ขอเพียงความตั้งใจ เท่านี้ก็สามารถเสริมบุคลิกคุณได้แล้ว

ท่าที่ 1
นอนคว่ำ ยกเท้าสองข้างให้สูงจากพื้น สูงเท่าที่จะทำได้ สลับกันหรือพร้อมๆ กันก็ได้ ให้ได้จำนวนมากที่สุด ทำสัก 3-4 set

ท่าที 2
นอนหงายใช้มือผลักบั้นท้าย ให้ขาชี้ฟ้า แล้วใช้เท้าทำเหมือนการปั่นจักรยาน ทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน ทำสัก 3-4 set

เน้นย้ำนะครับ เพียงสองท่านี้ ทำทุกวัน เพื่อการเห็นผลที่ดีที่สุด อาจดูเหมือนง่ายนะครับ แต่ทั้งหมดนี้มันอยู่ที่ความตั้งใจของคุณเองว่าจะทำได้หรือไม่ ไม่มีใครสามารถบังคับคุณได้หรอกครับนอกจากตัวของคุณเอง (ใช่มั้ยครับ)

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก http://www.metro-society.com/howto/?id=2

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ผมหน้าม้า ..มาแรงงงงงงงง

"หน้าม้า" สุดฮอต อ่อนเยาว์-สาวนิยม

หน้าม้า มาแรง .... แรงงงงงงงงงง มองไปทางไหนก็มีแต่ หน้าม้า ยิ่งตอนนี้จะมีหนังเรื่อง รัก สาม เศร้า ที่น้องพีคแสดงแล้วเธอยังตัดผมหน้าม้าอีกนั่นล่ะ.. ฮอตจริงๆ นะคะ แต่เรื่องของผมหน้าม้านี่ ใครอยากตัด ต้องมั่นใจหน่อยนะ ถึงบางครั้งหน้าเราอาจจะไม่เหมาะกับผมหน้าม้า แต่ให้มั่นใจซะอย่าง.. ตัดเลยค่ะ หรือใครยังไม่มั่นใจ ลองอ่านดูดาราสาวๆ เค้าที่พูดถึงผมหน้าม้านี่นะคะ เผื่อจะเป็นแสงสว่างให้คนที่อยากตัดผมหน้าม้า (แต่ยังไม่กล้า) ได้บ้าง

ตัดม้าเต่อ ม้าเต่อ กันเต๊อ


"ผมม้าหน้าเหมือนแมว มองดูแล้วหน้าเหมือน..." ใครที่เคยไว้ผมทรงหน้าม้าเมื่อสมัยเด็กๆ คงจำได้ดีว่ามักโดนเพื่อนล้อประโยคนี้อยู่บ่อยๆ แต่ใครจะรู้ว่า ผมทรงหน้าม้าน่ะ เป็นทรงผมสุดฮอตฮิต ไม่เคยตกยุค ยิ่งมายุคนี้ด้วยแล้ว ถือว่าอินเทรนด์กันเลยทีเดียว

เรื่องที่จะไว้ผมม้าแล้วหน้าจะเหมือนอะไร ไม่มีใครสนแล้วล่ะ

ดูอย่าง "เจ๊ตั๊ก" มยุรา เศวตศิลา นั่นเป็นไร ที่ไว้ผมหน้าม้ามาร่วม 20 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวเล่าว่า" ที่ไว้ผมหน้าม้าเพราะตอนนั้นประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้มีแผลเป็นตัววีอยู่บริเวณหน้าผาก ก็ปรึกษาหมอว่าอยากทำศัลยกรรม หมอแนะนำว่าไม่ต้องทำศัลยกรรม จะเจ็บตัวอีกทำไม ไว้ผมหน้าม้าปิดรอยแผลจะดีกว่า เพราะนานไปรอยแผลเป็นจะเลือนไปเองถ้าเราทาครีมบำรุง"


แล้วที่ว่าไว้ผมปิดหน้าผากแล้วโหงวเฮ้งจะเสีย "ตั๊ก-มยุรา" ให้ทรรศนะว่า "ส่วนตัวมีความคิดว่าอะไรที่เกี่ยวกับโหงวเฮ้งไม่สวยสักอย่าง อย่างคนโหงวเฮ้งดีต้องจมูกโต ถามจริงผู้หญิงจมูกโตสวยมั้ย หรืออย่างการเปิดหน้าผาก ดูเถิกไป ก็ไม่สวย เอาเป็นว่าเราขอฝืนโหงวเฮ้ง เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่าชีวิตเราดีขึ้นตั้งแต่ตัดผมม้า"


นี่ก็เป็นเจ้าแม่ผมม้า แถมชื่อเล่นยังชื่อ "ม้า" อีกต่างหาก สำหรับ เมก อัพอาร์ติสต์คนดัง "อรนภา กฤษฎี"


"เรื่องของแฟชั่นมันก็ไปก็มาแบบนี้ วนๆ กันไป สำหรับตัวเอง ไว้ทรงผมนี้มานานแล้ว น่าจะ 20-30 ปีแล้วมั้ง ก่อนหน้านี้เคยทำทรงอื่นๆ มาแล้วหลายทรงจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว สุดท้ายก็มาอยู่ที่ทรงนี้ เพราะรู้สึกว่ามันเข้ากับหน้าเราดี ที่สำคัญมันทำให้เราดูเด็กลงค่ะ"


"ไว้มานานแล้ว จนจำไม่ได้ว่า ไว้มากี่ปีแล้ว" หมอลำสาวเสียงพิณ "จินตหรา พูนลาภ" บอกกล่าวถึงทรงผมหน้าม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเอง


จากนั้นก็กล่าวถึงที่มาว่า "จำได้ว่าไว้ทรงนี้ตั้งแต่เรียนประถมฯ ต้นเหตุคือเป็นเหา แม่ก็เลยเอากรรไกรมาตัดผมสั้นเลย แถมตัดผมหน้าม้าด้วย จากนั้นเลยไว้ผมทรงหน้าม้ามาตลอดจนมาเป็นนักร้อง รู้สึกว่าตัวเองถูกโฉลกกับผมทรงนี้"


"จินเคยอยากเปิดหน้าผาก อยากเปลี่ยนทรงผม แต่พอลองดูแล้ว รู้สึกแปลกๆ มันไม่ใช่ ไม่ชินตา และเวลาที่ไว้ผมหน้าม้ายาวก็จะดูโทรม จะให้ดีต้องไว้หน้าม้าเต่อขึ้นไปเหนือคิ้วนิดนึง ผมบ๊อบต้องเลยติ่งหูมาหน่อย ไว้ทรงนี้แล้วมั่นใจค่ะ"

ส่วนสาวหมวยตาซุกซน "จ๋า"ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ไว้ผมหน้าม้ามาตั้งแต่อนุบาล "ไม่ว่าจ๋าจะไว้ผมสั้น ผมยาว หรือดัด แต่ผมข้างหน้าต้องเป็นหน้าม้าค่ะ ส่วนโหงวเฮ้งเขาว่าเปิดหน้าผากแล้วจะรับทรัพย์ แต่ของจ๋านี่ไว้หน้าม้าก็เลยมีพี่เขามาแก้ให้ โดยให้จ๋าเปิดขนตาหรือเบิกตาแทน พี่เขาบอกว่าถ้าแก้แล้วก็สามารถไว้หน้าม้าแล้วโหงวเฮ้งไม่เสียค่ะ"

นี่เพิ่งตัดหน้าม้าไม่นาน สำหรับนางเอกสาว "เอมี่ กลิ่นประทุม" "เอมี่รู้สึกเบื่อหน้าตัวเองและก็ไม่อยากตัดผมสั้น เพราะเดี๋ยวเล่นละครจะทำทรงอะไรไม่ค่อยได้ มีพี่ที่ร้านทำผมบอกว่างั้นตัดผมหน้าม้ามั้ย เพราะกำลังฮิต เราก็เลยตัด"
"ก่อนตัด ซี (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) บอกอย่าตัดเลย มันตลก จะปิดหน้าผากทำไม ซึ่งเราก็ไม่สนใจตัดเลย ตัดแล้วเขาก็บอกว่าเด็กดี แต่ก็มีหลายคนบอกว่าเปิดหน้าผากโหงวเฮ้งเอมี่จะดี เพราะหน้าผากเอมี่ค่อนข้างเล็ก แต่เราก็ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ พอตัดแล้วคนก็ชมว่าน่ารักดีดูเด็ก"

ส่วนหนู "ครีม"เปรมสินี รัตนโสภา ว่า "แรกที่ตัดเพราะต้องเล่นละคร แต่พอตัดแล้วรู้สึกว่าหน้าดูเด็กลง ตั้งแต่นั้นก็ไว้ตลอด คือบางคนที่เขาไว้ผมหน้าม้าอาจจะเอาไว้ปิดหน้าผาก แต่สำหรับครีม ไม่มีปัญหาตรงนี้ ครีมตัดผมตามใจตัวเองมากกว่า แค่ตัดออกมาดูดีก็พอแล้ว"


นักแสดงสาว "เบลล์"มนชญา ศรี สวัสดิ์ ทายาทคนเล็กของตลก "ดี๋ ดอกมะดัน" กล่าวถึงทรงผมที่ไว้ว่า "ส่วนใหญ่เบลล์จะตัดผมปีละครั้ง แต่ผมหน้าม้าจะตัดบ่อยหน่อย ล่าสุดตัดผมข้างหน้า เหมือนเดอะบิตเทิ้ล แต่ไม่ได้เต่อมาก เพื่อนๆ ก็บอกตัดทรงนี้แล้วโอเค ดูเด็กขึ้น ส่วนเรื่องที่ตัดผม ม้าแล้วบดบังโหงวเฮ้ง เบลล์รู้สึกเฉยๆ เบลล์ คิดว่าเราตัดผมทรงไหน ไว้ผมทรงอะไรแล้วสบายใจ เหมาะกับหน้า นั่นคงจะเป็นเรื่องที่ดี กว่าค่ะ"

ดาราสาว "ฟาง" พิชญา ศรีเทพย์ แง้มว่า "ของฟางเป็นม้าเต่อ ซึ่งมันดูแปลกไม่เหมือนใคร เมื่อก่อนฟางจะตัดหน้าม้าที่สั้นสูงแค่ระดับตา มันทำให้หน้าหวาน แต่ผมมันทิ่มตาตลอด ก็เลย ตัดเป็นม้าเต่อค่ะ"
ส่วนเรื่องทำผมปิดหน้าผากทำให้ปิดโหงวเฮ้ง หนูฟางบอกว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะม้าเต่อก็เห็นหน้าผากอยู่แล้ว



ด้านหนู "พีค"ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ เผยถึงที่มาในการตัดผมทรงหน้าม้าว่า "เพราะ พี่ต้อม (ยุทธเลิศ สิปปภาค) สั่งให้ตัด เพื่อต้องการเปลี่ยนลุกส์มาเป็นสาวเซอร์ ในหนัง "รัก/สาม/เศร้า" พี่ต้อมให้เวลา 2 นาทีในการตัดสินใจ พอพีคโอเคปุ๊บ ช่างก็มาตัดให้เลย"


"ตัดวันแรกรู้สึกหน้าแปลกๆ ไม่ชิน แต่พอตัดไปสักพักเริ่มชอบ มันดูมีคาแร็กเตอร์ ช่วงไหนถ้าผมหน้าม้ายาวพีคก็จะตัดเอง แหว่งบ้างไม่เท่ากันบ้างก็ไม่เป็นไร ให้มันดูเซอร์ ซึ่งถ้าไม่ใช่ตัดเพราะ หนัง ก็ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงจะกล้าตัด ผมม้าหรือเปล่า"


"ถ้าสังเกตดีๆ แอนตัดผมหน้าม้ามาตั้งแต่ตอนเล่นละครเรื่อง "อุ้มรัก" แล้ว" นางเอกสาว "แอน ทองประสม" รีบอวด เมื่อถูกถามเรื่องทรงผมหน้าม้า


"ที่ตัดทรงหน้าม้าเพราะผมทรงนี้สามารถทำอะไรได้ง่าย จะแสกข้าง แสกกลางได้หมด แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบซะทีเดียว เพราะแอนก็มีความเชื่อในเรื่องการปิดโหงวเฮ้งบ้างในบางครั้ง ก็จะไว้หน้าม้าในบางครั้งที่เราอยากไว้ค่ะ"


สดๆ ร้อนๆ กับผมหน้าม้าของนางเอกสาว "น้ำฝน"กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ "ฝนเพิ่งตัดผมหน้าม้าเมื่อวานนี้เอง (2 มิ.ย.) เพราะเห็นว่าเป็นแฟชั่นที่เขาฮิตกัน ไม่ได้คิดอะไรมาก พอตัดออกมาแล้วก็พอใจ อีกอย่างที่ไม่คิดมากก็เนื่องจากว่าฝนเองเป็นคนที่ผมยาวเร็ว พอตัดซักพักนึง ถ้าไม่พอใจก็จะสามารถเปลี่ยน เป็นทรงผมอื่นได้ค่ะ"


สุดท้ายนักร้องสาวหมวย "เบลล์"มนัญญา ลิ่มเสถียร แห่งวง "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" บอกว่า "ที่ตัดหน้าม้าก็ตัดตามแฟชั่น หน้าม้ามันเป็นเทรนด์ที่มาก่อนแล้ว 2-3 ปี ซึ่งจริงๆ แล้วเบลล์ตัดมาปีกว่าแล้ว ตัดแล้วทำให้ดูหน้าสดใส และดูหน้าเปลี่ยนไป ไม่จำเจ ไม่ได้ไว้เพื่อปิดหน้าผากหรือรอยแผลเป็นอะไร แต่เบลล์ตัดตามแฟชั่นค่ะ"
จะไว้ผมทรงไหน จะนำหรือตามแฟชั่น อยู่ที่ใจชอบ

อ่านแล้ว หากยังไม่แน่ใจอีก ว่าแบบไหนจะโดนใจ ลองเลือกผมหน้าม้าจากที่เอารูปมาให้ดูนะคะบางคนอาจจะเหมาะที่จะตัดหน้าม้าตรงๆ บางคนก็เป็นหน้าม้าแบบเฉียงๆ สไลด์ ซอย ดัด ก็ว่ากันไป


ขอขอบคุณคอลัมน์ มายาวาไรตี้ : นสพ.ข่าวสด

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แบบทดสอบเสน่ห์ของสาวๆ : คุณขาดเสน่ห์ตรงไหนบ้าง?

1. คุณถ่ายรูปขึ้นหรือเปล่า?
* ใช่ (ไปข้อ 2) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 3)

2. เคยมีคนพูดว่า "งานไหนขาดคุณ งานนั้นกร่อย บางหรือไม่"?
* ใช่ (ไปข้อ 3) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 6)

3. คุณยกมือบ้ายบายแฟนก่อนแยกกลับบ้านหรือเปล่า?
* ใช่ (ไปข้อ 4) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 8)

4. เวลาเดินเคียงไปกับชายที่ถูกใจ รู้สึกอยากจะควงแขนหรือจับมือเขา
* ใช่ (ไปข้อ 13) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 12)

5. ใส่ใจต่อท่าไขว่ห้างของตัวเอง
* ใช่ (ไปข้อ 6) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 9)

6. แม้ถูกชวนไปนั่งกินข้าวร้านซ่อมซ่อริมข้างทาง คุณก็ไม่รังเกียจ
* ใช่ (ไปข้อ 7) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 14)

7. ถ้ามีคนชมว่าคุณร้องเพลงเพราะ คุณจะกล้าร้องต่ออีกเพลงทันที
* ใช่ (ไปข้อ 3) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 8)

8.คุณมักจะมองหน้าของฝ่ายตรงข้ามเวลาทำความเคารพด้วย
* ใช่ (ไปข้อ 4) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 17)

9. สระผมเป็นประจำทุกเช้าไม่เคยขาด
* ใช่ (ไปข้อ 14) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 11)

10. จะต้องกดชักโครกห้องน้ำที่มีคนใช้ก่อนหน้าคุณทุกครั้ง
* ใช่ (ไปข้อ15) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 17)

11. เวลาหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน จะไม่พลาดอ่านหน้าพยากรณ์โชคชะตาราศี
* ใช่ (ไปข้อ10) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 15)

12. ถ้าไม่ทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย จะรู้สึกไม่สบายใจ
* ใช่ (ไปข้อ 21) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 13)

13. สามารถทำอาหาร ทำความสะอาด ซักเสิ้อผ้าได้อย่างสบาย
* ใช่ (ไปข้อ 23) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 22)

14. คิดว่าโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง
* ใช่ (ไปข้อ 10) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 11)

15. พรมน้ำหอมเวลาออกไปข้างนอกเสมอ
* ใช่ (ไปข้อ 19) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 16)

16. วางตุ๊กตาหรือหมอนน่ารักๆไว้เต็มห้อง
* ใช่ (ไปข้อ 18) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 19)

17.เคยถูกผู้ชายที่ไม่ชอบตามตื้อ
* ใช่ (ไปข้อ 12) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 16)

18. เป็นคนไม่ชอบยอมแพ้คน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
* ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 20)

19. มั่นใจในรูปร่างของตนเองเวลาไม่ใส่เสื้อผ้า
* ใช่ (ไปข้อ 18) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 20)

20. มักชมเสื้อผ้าหรือกระเป๋าของเพื่อนผู้หญิงบ่อยๆ
* ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 3) * ไม่ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 4)

21. คุณคิดว่ารอบตัวคุณมีคนที่นิสัยไม่ดีปะปนอยู่ด้วย
* ใช่ (ไปข้อ 18) * ไม่ใช่ (ไปข้อ 22)

22. ถ้าช่วงเช้าคุณเจอเรื่องไม่สบอารมณ์จะอารมณ์ค้างไปจนถึงตอนเย็น
* ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2) * ไม่ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 1)

23.ถ้ามีใครบอกถึงเคล็ดลับที่จะทำให้สวยงาม คุณจะไม่รั้งรอที่จะปฎิบัติตามทันที
* ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 1) * ไม่ใช่ (ดูเฉลย ข้อ 2)

คำเฉลย

1. ระดับความน่ารักของคุณ 100%

เสน่ห์แบบหญิงสาว คุณนั้นเปรียบเสมือนนางเอกผู้อุทิศตัวและเสียสละ สิ่งไหนที่คนทั่วไปคิดว่าเบื่อหน่าย แต่คุณจะทุ่มเททั้งพลังใจและพลังกายเพื่อลองทำมัน แต่ถ้าไม่ประสบความสำเรคุณจะสามารถยิ้มรับและ ไม่ละทิ้งความตั้งใจในการที่จะลองใหม่คราวหน้า เรียกว่ามีทั้งความร่าเริงสดใสและความเข้มแข็งในตัว ทำให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข คุณยังมีอีกด้านที่เซ็กส์ซี่ซ่อนอยู่ในตัวด้วย บางครั้งบางคราวทำให้พวกผู้ชายตาค้างด้วยความคาดไม่ถึงนอกจากนี้คุณยังมีความหึงหวงซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ และนอกจากความน่ารักในตัวแล้ว คุณยังมีความสามารถในการทำงานอีกด้วย แต่เนื่องจากเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นมากจนเกินไป ทำให้คุณเหนื่อยมาก ต้องหัดอย่าทำอะไรที่มันฝืนใจตนเองด้วย

2. ระดับความน่ารักของคุณ 80%

เสน่ห์แบบเด็กสาว เรื่องที่คุณทำแม้จะมีผิดพลาดมาก แถมยังเป็นคนที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรไม่เก่งอีกด้วย แต่ความน่ารักของคุณอยู่ตรงที่การพยายามทำอะไรจริงจังและคุณเป็นคนที่อุทิศตนเพื่อคนที่รู้จักเรื่องใดๆ ที่ผู้หญิงทั่วไปตัดใจยอมแพ้ แต่คุณยังพยายามทำต่อ คุณเป็นสาวสไตล์ ซื่อไร้เดียงสา บริสุทธิ์ และมีความอดทนคล้ายนางเอกละครญี่ปุ่นยุคก่อนนั่นแหละ ชายหนุ่มใดที่อยู่ใกล้คุณจะรู้สึกสงบและสบายใจ เพียงแต่คุณมีความเป็นเด็กในตัวมากเกินไป ทำให้ขาดเสน่ห์แบบหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ ชอบให้ผู้ชาย เป็นที่พึ่งฝ่ายเดียว ทำให้บางครั้งฝ่ายชายรู้สึกว่าคุณขาดอะไร บางอย่างไป ข้อเสียอีกข้อหนึ่งของคุณคือ เป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่หัดมีความคิดของตัวเองซะบ้าง เสน่ห์ของคุณจะขาดไปอย่างน่าเสียดาย

3. ระดับความน่ารักของคุณ 60%

เสน่ห์ที่แสร้งขึ้น คุณเป็นแบบที่หนุ่มๆ อยากจะได้เป็นน้องสาว อยู่ด้วยแล้วมีทั้งความสนุกและความน่าเอ็นดูเพียงแต่ว่าในบางครั้งคุณเข้าใจความหมายของคำว่า "น่ารัก" ผิดไปสักหน่อย ลองถามตัวเองดูว่าคุณเคยทำตัวออดอ้อนเอ๊าะแอ๊ะให้ดูน่ารักในสายตาฝ่ายตรงข้ามบ้างหรือไม่ วิธีการพูดจาของคุณถ้าลองเทียบกับอายุจริงแล้วอาจพบว่าดูไม่สมอายุสักเท่าไหร่ บางคราวคุณเป็นฝ่าย ตามตื้อผู้ชายมากเกินไปจนทำให้คุณดูน่าหดหู่ในสายตาของคนอื่น แต่กระนั้นก็ตามคุณยังเข้าใจผิดว่าสิ่งนั้นคือเสน่ห์ของคุณเองอีกที่คุณต้องแก้ไขอย่างรีบด่วนคือ เลิกทำตัวน่ารักโดยฝืนธรรมชาติ คุณจะมีเสน่ห์ยิ่งกว่านี้ ถ้าเป็นตัวของตัวเอง

4. ระดับความน่ารักของคุณ 40%

เสน่ห์จากความรู้ คุณเป็นสาวมั่นที่ทรงความรู้และเก่งกาจในเรื่องการงาน ซึ่งเป็นเสน่ห์ประการหนึ่งของคุณซึ่งผู้หญิงหลายคนอยากเอาแบบอย่าง เพียงแต่ในสายตาของผู้ชายนั้น แม้เขาจะเห็นว่าคุณมีเสน่ห์แต่ไม่ กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ชายไม่กล้าจีบ นอกจากนั้นยังเข้าใจผิด คิดว่าคุณนั้นเคร่งขรึม ไม่สดใส ซึ่งเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง ทำให้คุณไร้ชายเข้ามาใกล้ชิดหรือค่อยๆ ห่างคุณไปโดยไม่รู้ตัว คุณขาดความน่ารักแบบหญิงสาว ถ้าอยากจะปรับปรุงตัวไม่ให้ไร้คู่แล้วล่ะก็ ต้องปลดภาระบนบ่าลงเสียบ้าง ยอมรับความเป็นตัวเองที่เป็น คุณจะสามารถเพิ่มพูนเสน่ห์ของตนเองได้

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

** บุคลิกภาพสร้างความประทับใจ **



ผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดี ย่อมเป็นที่จับตามองของคนทั่วไป เคยสังเกตไหมว่าเวลาที่คุณอยู่ในที่ที่มีผู้คนอยู่กันเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีบุคลิกภาพดีมักจะโดดเด่นกว่าผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการจัดทรงผม การแต่งกาย ลักษณะการยืน เดิน หรือการนั่ง ก็ดูแล้วน่ามอง การสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเองนั้น ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการของตัวเองเป็นหลัก เพราะถ้าคุณพร้อมและมีความตั้งใจที่จะปรับปรุงบุคลิกภาพอย่างจริงจังไม่ช้าคุณจะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดีได้เช่นกัน หลักปฏิบัติในการพัฒนาตนเองง่ายๆ ดังต่อไปนี้

การจัดทรงผม การเลือกทรงผมให้เหมาะกับตัวเอง โดยเฉพาะให้เหมาะกับรูปหน้าของตนเองก็จะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น อาจใช้วิธีปรึกษาจากผู้ที่เชี่ยวชาญหรือช่างตัดผมซึ่งมีความชำนาญในด้านนี้อยู่แล้วให้ช่วยออกแบบให้ หรือการจัดแต่งทรงผมให้ถูกกาลเทศะ และโอกาสก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

การแต่งกาย นอกจากจะจัดแต่งทรงผมให้เข้าที่เข้าทางแล้ว การเลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับรูปร่าง ตลอดจนให้เหมาะสมกับสถานที่ที่คุณจะไปก็สำคัญ ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่อยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีเศษด้ายขาดรุ่งริ่ง ควรรีดและทำความสะอาดก่อนสวมใส่ทุกครั้ง และไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่ส่งกลิ่นเหม็นอับเพราะจะทำให้คุณดูเสียบุคลิกภาพไปเลยทั้งวัน

การเดิน นั่ง และยืน ผู้ที่มีลักษณะท่าเดิน นั่ง และยืนที่ดี คือ เดินยืดตัว หน้าตรง เดินแกว่งแขนไปมาเล็กน้อย จะแสดงออกถึงความเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองและมีความเชื่อมั่น ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพที่ดีแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณด้วย เช่น จะไม่เป็นโรคที่เกี่ยวกับข้อกระดูกต่างๆ ปวดหลัง ปวดข้อต่อ เป็นต้น

การใช้สายตา และแววตา การสบตากับผู้ที่เราคุยด้วยเป็นการสร้างบุคลิกภาพที่ดีในการสนทนาและเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจอีกด้วย การสบสายตามิใช่เป็นการจ้องแบบดุดันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแต่ควรแสดงออกถึงความสนใจ ความเอาใจใส่ และความปรารถนาจะพูดคุยด้วย รวมถึงการมีแววตาที่มีความเป็นกันเอง และพร้อมที่จะช่วยเหลือและให้ความร่วมมือ เคล็ดลับสำหรับผู้ที่อยากมีแววตาสดใสก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการ การมีสุขภาพจิตที่ดีก็จะทำให้คุณมีแววตาที่สดใส และอารมณ์ที่แจ่มใสอยู่เสมออีกด้วย

การใช้คำพูด และน้ำเสียง การใช้คำพูดและน้ำเสียงที่สุภาพก็เป็นอีกหนึ่งบุคลิกภาพที่ดี หลีกเลี่ยงคำพูดที่ก้าวร้าว เหน็บแนม เอะอะโวยวาย และโดยเฉพาะคำพูดที่ทำให้คู่สนทนารู้สึกว่าถูกดูหมิ่นก็ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง


การแสดงพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ธรรมดา การแสดงพฤติกรรมอื่นๆ ที่คุณทำเป็นประจำจนเกิดความเคยชินก็ทำให้ดูเสียบุคลิกภาพได้ เมื่อคุณทำพฤติกรรมเหล่านั้นในที่สาธารณะ เช่น พฤติกรรมการชอบดึงผม กัดเล็บ แคะจมูก เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ควรทำในที่สาธารณะเพราะจะทำให้คุณดูเสียภาพพจน์และเสียบุคลิกภาพ พฤติกรรมบางอย่างอาจต้องใช้เวลาในการละเลิก แต่ก็ยังดีกว่าที่คุณจะไม่พยายามเลย หันมาให้ความสำคัญของการพัฒนาบุคลิกภาพเพียงสักนิด อาจแค่ปรับเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้คุณดูดีขึ้นมาในทันใด


คุณสามารถสร้างความประทับใจได้ด้วยตัวคุณเองนะคะ

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551


"สีกาแฟ" เทรนด์สีผมสุดฮิตสำหรับสาวเอเชีย


ลอรีอัลโปรเฟสชั่นแนล ผู้นำแห่งเทรนด์แฟชั่นสีผมระดับโลก เผยเทรนด์สีผมที่กำลังมาแรงและฮิตมากที่สุดของสาวเอเชีย นั่นคือ ผมเฉดสีน้ำตาลกาแฟ

ด้วยแรงบันดาลใจจาก กาแฟ และคอนเซ็ปต์สุดเก๋จากเครื่องดื่มกาแฟชนิดต่างๆจึงสะท้อนให้เห็นถึงสีน้ำตาลชวนหลงใหลในหลายบุคลิก ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล จึงสร้างสรรค์คอลเลกชั่นสีน้ำตาล มาจิบราวน์ (Majibrown) ครีมเปลี่ยนสีผมคอลเลกชั่นสีน้ำตาลเพื่อถ่ายทอดแฟชั่นเฉดสีน้ำตาลกาแฟเมนูต่างๆ หลากบุคลิก อาทิ เรียบหรูคลาสสิกดั่งเอสเพรสโซ อ่อนโยนมีสไตล์ดั่งคาปูชิโน ร่าเริงสดใสดั่งลาเต้ และมิกซ์แอนด์แมทช์สไตล์มอคค่า

กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ นอกจากจะชวนให้หลงใหลและลิ้มลองแล้วน้ำสีน้ำตาลเข้ม ยังใช้รังสรรค์เครื่องดื่มกาแฟหลากรสชาติ หลายเมนู ไล่เรียงเฉดสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลปานกลาง ไปจนถึงน้ำตาลอ่อน ยั่วยวน ชวนสัมผัสรสชาติอันลึกล้ำด้วยสีสันและความเข้มข้นของกาแฟ ยังสะท้อนถึงหลากบุคลิกและอารมณ์ของหญิงสาว

สีน้ำตาลเข้มที่มาพร้อมรสชาติเข้มข้นของกาแฟเอสเพรสโซเปรียบเสมือนสาวผู้ชื่นชอบความเรียบหรูคลาสสิก คือแรงบันดาลใจของเมนูนี้ ที่ผสานความเรียบหรู แบบคลาสสิกจากเฉดสีน้ำตาลเข้มของมาจิบราวน์ จากลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล สลับกับช่อไฮไลท์สีอ่อนกว่าระดับพื้นผมเดิมเล็กน้อย ให้สีที่กลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งให้สีผมที่มีสไตล์ เรียบหรู ดูมีมิติและคงความเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าคุณกำลังจิบกาแฟเอสเพรสโซถ้วยโปรดในตอนเช้า ดั่งสาวผู้ชื่นชอบความเรียบหรูและคลาสสิก


กาแฟผสมนมให้สีน้ำตาลปานกลาง คาปูชิโนความเข้มข้นหอมกรุ่นของกาแฟต้นตำรับอย่างเอสเพรสโซ ผสมผสานกับความหวานมันของนมสดและฟองนมในสัดส่วนเท่าๆ กัน โรยหน้าด้วยผงซินนามอนหรือผงช็อกโกแลต เกิดความลงตัวเป็นกาแฟรสเลิศ กลมกล่อม และหอมละมุน จึงเป็นแรงบันดาลใจในการนำเฉดสีน้ำตาลอ่อนปานกลาง มาผสมผสานสลับกับไฮไลท์ประกายเดียวกันกับสีผม สร้างมิติสีสันที่กลมกล่อมลงตัว พร้อมจัดแต่งทรงผมให้เป็นลอนพลิ้วไหว เสมือนฟองนมละเอียด ที่คุณสามารถตกแต่งเพิ่มสีสันด้วยการวาดรูปที่คุณชื่นชอบลงบนฟองนม มอบความพิเศษให้แก่กาแฟถ้วยโปรด ให้คุณจิบรสชาติที่ลงตัวของคาปูชิโน พร้อมสุนทรีย์ในการละเลียดฟองนม ดั่งหญิงสาวผู้อ่อนหวาน อ่อนโยน ทว่ามีสไตล์และละเมียดละไม

ลาเต้
ความอ่อนโยนละมุนละไมของกาแฟลาเต้ เกิดจากการนำรสชาติที่เข้มข้น หอมกรุ่นของกาแฟเอสเพรสโซ ผสานเข้ากับความละมุนละไมของนมสด ก่อเกิดกาแฟรสชาติอ่อนโยน และกลมกล่อม โดยสามารถเสิร์ฟแบบร้อน โดยการเติมฟองนมเพื่อรักษาความอุ่นของกาแฟ หรือเลือกเสิร์ฟแบบเย็น มอบความสดชื่นได้ดีในยามบ่าย ความละมุนละไมของลาเต้ เสมือนสาวหวานที่ร่าเริงสดใส ในผมเรียบตรงสลวย เป็นประกายเงางาม ผสานเฉดสีผมโทนน้ำตาลอ่อนปานกลาง จากมาจิบราวน์สลับกับไฮไลท์ประกายเดียวกันกับสีผม ให้มิติสีสันเฉดน้ำตาลที่เรียบๆ แต่มีสไตล์และคงความนุ่มนวล กลมกล่อม อย่างลงตัว ดั่งรสชาติของลาเต้แก้วโปรดในยามเช้า


ปิดท้ายที่มอคค่า อีกหนึ่งเมนูกาแฟ รสชาติหอมหวาน ที่ผสานความเข้มข้นของกาแฟเอสเพรสโซเข้ากับความหอมของช็อกโกแลตและความหวานมันของนมสด จนอดใจไม่ไหวที่จะต้องลิ้มลอง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการดีกรีความเข้มข้นของกาแฟมากนัก ไม่ว่าจะเสิร์ฟแบบร้อนหรือเย็น เมนูมอคค่า จึงเปรียบได้กับเฉดสีผมโทนน้ำตาลอ่อนจากมาจิบราวน์ สลับไฮไลท์ที่กลมกลืนกับสีพื้นผมธรรมชาติ ผสานกับการเพิ่มมิติและสไตล์ให้ผม ด้วยการจัดแต่งเป็นลอนบางเบา พลิ้วสลวย อ่อนหวาน เข้ากันได้ดีกับผมสีอ่อน ให้ลุคที่ลงตัวเช่นเดียวกับหญิงสาวผู้รักการสร้างสรรค์บุคลิกเฉพาะตัว ชื่นชอบสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ และนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ต่างจากรสชาติหอมหวานผสมผสานอย่างลงตัว ชวนให้ลิ้มลองของมอคค่า

ขอขอบคุณที่มา : คมชัดลึก

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ชายหนุ่มแบบไหน ที่เร้าใจสาว?





คงต้องยอมรับกันแต่โดยดี ว่าไม่ใช่เพียงผู้ชายเท่านั้น ที่มีผู้หญิงในเสปค เพราะผู้หญิงเขาก็มีผู้ชายในเสปค ที่เธอแอบปลื้มอยู่ด้วยเหมือนกัน หญิงสาวหลายคนอาจวาดฝันเอาไว้ว่า ผู้ชายของเธอนั้นจะต้องมาดแมน อกผายไหล่ผึ่ง แข็งแรง และเซ็กซี่ แต่ในความเป็นจริงจริงขอแค่คุณผู้ชายที่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวต่อไปนี้ ก็เป็นเซ็กส์แอพพีลที่จะดึงดูดให้สาวๆ หันมาหลงใหล หรือว่าสยบข้างคุณได้

ฉลาดเฉลียว


คงไม่ต้องถึงกับขนาดฉลาดเป็นกรด แต่ต้องพยายามที่จะเรียนรู้ข่าวสารใหม่ๆ รอบตัวตลอดเวลา เริ่มใช้เพียงวันละ 10 นาที ก่อนออกไปทำงานนอกบ้าน ด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์ หรือดูข่าวประจำวันให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และพร้อมที่จะเปิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เก็บความรู้เหล่านั้นกักตุนไว้ในสมองให้เยอะๆ ค่อยๆ นำมันออกมาใช้ … เธอจะรู้ว่าคุณนั้นช่างเป็นผู้ชาย ที่น่าจะมาเป็นผู้นำให้กับชีวิตเธอเสียจริง

แข็งแกร่ง


นอกจากจะหมายถึงการทำร่างกายให้แข็งแกร่งสมชายกันแล้ว ในเรื่องความเข้มแข็งของจิตใจ ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะผู้ชายที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เธอเชื่อมั่นตัวคุณมากยิ่งขึ้น เพราะนั่นหมายความว่า ไม่ว่าภายภาคหน้าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายสักปานใด เกิดขึ้นมาบนเส้นทางรักของคุณและเธอ คุณจะหาทางพาเธอฝ่าฟันไปจนได้ และผู้ชายที่แข็งแกร่งเช่นคุณ คือคุณสมบัติที่สาวส่วนใหญ่ฝันเอาไว้ วงแขนที่แข็งแรง ผสานจิตใจที่แข็งแกร่งที่โอบเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน มักทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวได้ทุกคราไป

เชื่อมั่นตัวเอง


ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอก ที่ต้องการผู้ชายที่มีลักษณะเป็นได้แค่ผู้ตาม หรือยอมตามใจเธอไปเสียทุกเรื่อง จนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง สู้คงความเป็นตัวตนของคุณเอาไว้บ้าง แสดงให้เธอเห็นถึงความมั่นใจที่มีอย่างเต็มเปี่ยมของคุณดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยึดถือความเป็นตัวของตัวเองไปเสียทุกเรื่อง ขอให้ฟังเธอบ้าง และใช้เหตุผลประกอบทุกครั้งเมื่อเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน และประเภทลูกแหง่ติดแม่งอมแงม ก็อย่าหวังจะได้ใจเธอมาครอง เพราะเธอจะมอว่า นี่หรือ คือผู้ชายที่จะมาเป็นหัวหน้าครอบครัว

อ่อนโยน



ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอนะครับ ความอ่อนโยนของคุณ จะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ ทั้งยังทำให้เธอรู้สึกว่าคุณมีความใส่ใจในตัวเธอ จะเป็นอะไรไปถ้าผู้ชายอย่างคุณจะร้องไห้ออกมาเสียบ้าง เพราะแทนที่เธอจะมองว่าคุณอ่อนแอ แต่นั่นหมายถึงความอ่อนโยน และบางครั้งเธออยากจะแสดงความห่วงใย ใส่ใจในความรู้สึกกับผู้ชายของเธอบ้าง และนั่นยังหมายถึงว่าเธอมีคุณค่าพอ ที่คุณได้เผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้เธอได้รับรู้ด้วย

มีอารมณ์ขัน


อารมณ์ขันถือว่าเป็นเสน่ห์ของผู้ชายที่มัดใจผู้หญิงได้ดีทีเดียวครับ ยามที่เธอมีเรื่องทุกข์ร้อนภายในใจ คุณนั่นแหละที่จะทำให้เธอยิ้มได้เป็นคนแรก คุณสามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายๆ ได้อย่างสบาย ทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาทุกครั้งที่อยู่ใกล้คุณ ซึ่งเธอจะมองลึกลงไปในจิตใจคุณ และแอบปลื้มในตัวคุณอยู่ไม่น้อย ซึ่งเธอต่างเชื่อมั่นว่าผู้ชายที่มีอารมณ์ขัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และก็มีสาวบางคนแอบกระซิบบอกว่า ผู้ชายที่มีอารมณ์ขันก็เหมือนบารอมิเตอร์ ที่คอยวัดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างกับเรื่องบนเตียง

ดึงดูดใจ


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลร่างกายให้ดีขึ้น มีกล้ามพองาม เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน หรือว่าการแต่งกายที่ดูเป็นเอกลักษณ์ และขอให้อ่อนหวาน พูดจาสุภาพน่าฟังเข้าไว้ก่อน เพราะไม่มีผู้หญิงที่ไหน ที่จะชอบผู้ชายหยาบคายหรอกนะครับ ต่อให้คุณหล่อราวเทพบุตรเดินดินก็ตามที เพียงเท่านี้ก็เป็นสิ่งดึงดูดสาวๆ ให้อยากเข้ามาอยู่ใกล้คุณแล้วครับ

ที่นี้คงรู้แล้วกระมังว่า แบบฉบับและสไตล์ที่สาวๆ เขาถูกใจ นอกเหนือจากเรื่องเซ็กส์ นั้นมีอะไรบ้าง จะได้ปฏิบัติตัวเองกันเสียใหม่ เพื่อมัดใจสาวเจ้าไม่ให้หน่ายหนีไปโดยง่ายไงหล่ะครับ

อย่ามัวแต่มั่นใจว่า เพียงแค่ความหล่อของคุณเพียงอย่างเดียว ก็สามารถมัดใจพวกเธอได้ อาจจะใช่ แต่คงเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ระยะสั้นๆ เท่านั้น สู้คุณทำตัวให้เป็นที่น่าสนใจไปเสียทุกอย่างไม่ดีกว่าหรือครับ ผู้ชายหล่อด้วย นิสัยดีด้วย เธอยิ่งอยากชิดใกล้เข้าไปใหญ่…



ที่มา : Kapook.com