วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551
เคล็ดลับความงามในที่ทำงาน
วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551
3. รับประทานปลา หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมันเป็นประจำโดยเฉพาะเนื้อปลาซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นโปรตีนชั้นดี, และมีกรดไขมัน โอเมก้า 3 ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง ,หรือปลาแซลมอน ปริมาณไขมันที่คุณ ควรรับประทานต่อวัน ไม่ควรเกิน 5-8 ช้อนชานะคะ และหากจะรับประทานสลัดก็ไม่ควรใส่น้ำสลัดมากกว่า 5 ช้อนชา
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551
มาสค์พอกหน้าจากมะละกอนำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำไปพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่ง มือเป็นบริเวณที่ฟ้องถึงวัยของคุณได้เช่นกัน เนื่องจากเราใช้มือในการหยิบจับสิ่งของอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการสัมผัสกับสารเคมีก็อาจทำให้ผิวบริเวณนี้หยาบกร้าน เกิดริ้วรอย ดูไม่น่ามองได้
วัย 20 ขึ้นไป
การดูแล : ในตอนกลางวัน ควรทาครีมกันแดด เนื่องจากเป็นส่วนที่อาจถูกแสงแดดได้ ส่วนในตอนกลางคืน ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับมือ นอกจากนี้ทุกสัปดาห์ ควรขัดผิวบริเวณมือด้วยครีมสครับสูตรอ่อนโยน เลือกใช้สครับที่ทำมาเพื่อผิวหน้าก็ได้ค่ะ การขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ให้หลุดลอกออก และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทน และยังช่วยให้การทาครีมบำรุงผิว ซึมซาบสู่ผิวได้ดีขึ้น
วัย 30 ปีขึ้นไป
การดูแล : เมื่ออายุมากขึ้น ผิวบริเวณนี้จะแห้งและหยาบกร้านมากขึ้น เพื่อชะลอความเหี่ยวย่น การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งมีสารกันแดดด้วย เป็นสิ่งจำเป็นมาก นอกจากนี้ วัยที่มากขึ้น ทำให้การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวโดยธรรมชาติทำได้ช้าลง การขัดผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะจะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสและช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวได้มากขึ้น และหลังจากขัดผิวแล้ว อย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยทุกครั้ง Jeanette Graf ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากนิวยอร์ค แนะว่าการทาครีมบำรุงมือให้ได้ผลดีและไม่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์นั้น ควรทาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเข้านอน และครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอจะช่วยลดเลือนริ้วรอยของผิวได้
วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551
ชะอม
ถ้าผมของคุณขาดชีวิตชีวา เจอลมแรงยังแทบไม่กระดิก แล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้ใช้สูตรชะอม โดยใช้ใบชะอมประมาณ 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำสะอาด 3 ถ้วยจนเดือด กรองเอาแต่น้ำเขียวๆ นำไปวางไว้ให้เย็น หลังจากสระผมสะอาดแล้ว นำผ้าขนหนูชุบน้ำชะอมพอหมาดๆ เช็ดถูให้ทั่วศีรษะ จะช่วยคืนสภาพเส้นผมให้ดีขึ้นได้ และยังช่วยไม่ให้ผมแตกปลายอีกด้วย แต่ก็คงต้องทนกลิ่นเหม็นเขียวของชะอมสักหน่อยนะคะ
ตะไคร้
ตะไคร้ที่เราใส่ในต้มยำ นี่แหละค่ะ ใช้แก้ปัญหาผมแตกปลายได้ผลดีทีเดียว ให้ใช้ตะไคร้ 2-3 ต้น นำมาโขลกให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ หลังจากสระผมสะอาดดีแล้วนำน้ำตะไคร้มาชะโลมและนวดให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้สัก 10 นาที จึงล้างออก ทำกันเป็นประจำสัก 2 เดือน รับรองได้ว่า ปัญหาผมแตกปลาย จะไม่ใช่เรื่องกวนใจคุณอีกต่อไปค่ะ
กล้วย
นำกล้วยน้ำว้าสุกมาบด หยดน้ำมันอัลมอนด์ลงไปเล็กน้อย ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมานวดลงบนเส้นผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ ,15 นาที เพื่อให้ส่วนผสม ค่อยๆซึมเข้าไป แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมแห้งกรอบ ขาดชีวิตชีวา ก็จะฟื้นคืนชีพได้
ใช้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันหอมโรสแมรี่ นำมานวดให้ทั่ว หมักผมค้างไว้ 1 คืนแล้วค่อยสระผมในตอนเช้า จะช่วยขจัดรังแคได้ค่ะวีทเจิร์มสูตรคอนดิชั้นเนอรฺชนิดเข้มข้น นำวีทเจอร์ม มาผสมกับน้ำมันมะกอก แล้วนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น บิดให้แห้ง นำมาคลุมผมไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วจึงล้างออก