วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551

อย.เอาจริง เข้มงวดสถาบันเสริมความงาม ล่าสุด วุฒิศักดิ์คลีนิค สาขางามวงศ์วาน เจอหางเลข!!!

นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมด้วย นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ รศ.นพ.นภดล นพคุณ และ นพ.ประวิทย์ อัศวานนท์ จากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการที่มีคลินิกเสริมความงามหลายแห่งนำสารกลูตาไธโอน (Glutathione) มาฉีดให้ลูกค้า โดยโฆษณาชวนเชื่อว่าช่วยให้ผิวขาวเรืองแสงได้ ซึ่งเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา อย.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าตรวจสถานพยาบาลวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม สาขางามวงศ์วาน พบว่า มีแผ่นพับโฆษณาสถานพยาบาลในลักษณะโอ้อวดเกินความจริง นพ.ศุภชัย บอกว่า จากการเข้าตรวจสถานพยาบาลวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม สาขางามวงศ์วาน พบว่า สถานบริการแห่งนี้ มีแผ่นพับโฆษณาข้อความดังกล่าว ระบุว่า โปรแกรมเรเดี๊ยนซ์ แอนด์ ดีท็อกซิฟิเดชั่น (RADIANCE DETOXIFICATION) เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่าง สดใส ทั่วทั้งเรือนร่าง เหมือนดาราโดยไม่มีผลกระทบจากการใช้ยา ถือเป็นโฆษณาที่เข้าข่ายโอ้อวดเกินความจริง เข้าข่ายความผิดมาตรา 38 พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พุทธศักราช 2541 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และหากยังมีการโฆษณาเกินจริงอยู่อีก จะมีโทษปรับวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขโฆษณาดังกล่าวให้เหมาะสม นอกจากนั้น ยังมีการตรวจพบการใช้ยาเตติโอนิล (TATIONIL) ซึ่งมีตัวยากลูตาไทโอน ซึ่งเป็นยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยานำมาใช้ในสถานประกอบการ ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 34(2) พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พุทธศักราช 2541 ต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ " ขณะนี้ได้สั่งการให้สถานพยาบาลดังกล่าวระงับการโฆษณา หรือการโฆษณาอื่น ๆ ที่มีลักษณะหรือมีข้อความที่เป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล และให้ระงับการใช้ยาดังกล่าวด้วย โดยจะมีผลรวมไปถึงสถานพยาบาลทุกแห่งที่มีการใช้วิธีนี้อยู่ เนื่องจากเป็นกระบวนการรักษาที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้หากพบว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการก็จะส่งเรื่องให้กับแพทยสภาพิจารณาต่อไป " นพ.ศุภชัย กล่าว นพ.ศุภชัย ยังถือโอกาสประกาศด้วยว่า ขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้รณรงค์ตรวจมาตรฐานการประกอบกิจการสถานพยาบาลคลินิกที่จัดให้บริการเกี่ยวกับการเสริมความงาม โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการตรวจคลินิกจำนวน 110 แห่ง พบว่ามีข้อความโฆษณาในเชิงโอ้อวดมากที่สุดถึง 24 แห่ง ขณะเดียวกัน ยังตรวจพบว่ามีป้ายชื่อคลินิกไม่ถูกต้อง 2 แห่ง ไม่มีข้อความแจ้งให้สอบถามอัตราค่ารักษาพยาบาล ไม่แสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล และไม่แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการและใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลในที่เปิดเผย จำนวนอย่างละ 1 แห่ง ซึ่งทางกรมได้แนะนำและตักเตือนให้สถานพยาบาลดังกล่าวปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว " ผมอยากฝากไปยังคลินิกเสริมความงาม และคลินิกผิวหน้าทั้งหลาย ให้ระมัดระวังในการใช้ยา เวชภัณฑ์ วิธีการรักษาต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐานได้รับการยอมรับ ไม่ควรนำคนไข้ไปเป็นตัวทดลองแถมยังเก็บค่ารักษาพยาบาลในราคาที่แพง ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายด้วย " นพ.ศุภชัย กล่าว ด้าน นพ.ประวิทย์ อัศวานนท์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามียาหลายประเภทที่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวดูซีดจางลง แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะมีผลข้างเคียงอื่น ๆ อีกหรือไม่ ขณะนี้ข้อมูลในระยะยาวยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดผลเสียได้ในอนาคต " ขอเตือนวัยรุ่น ผู้หญิง ไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้น เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร ผลิตภัณฑ์ยาอาจช่วยได้ชั่วคราว แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาร่างกายก็ผลิตเม็ดสีตามปกติ ซึ่งการฉีดยาเข้าเส้นนั้นมีอันตรายมาก ผู้บริโภคที่ได้รับการฉีดสารตัวนี้อาจเกิดอาการแพ้ยา ช็อก หรือหยุดหายใจได้ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็สามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ชั่วคราวเท่านั้น โดยไม่มีผลกับโครงสร้างใด ๆ ของผิว " นพ.ประวิทย์ กล่าว " นอกจากนี้ การที่ประชาชนในแถบเอเชียมีผิวคล้ำ ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเล็ตจากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ผิดธรรมชาติ และหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้สารกลูตาไทโอนก็สามารถแจ้งมาได้ทั้ง 3 หน่วยงาน คือ อย.สบส.และ สคบ." คุณหมอ ทิ้งท้าย

14 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ควรจะเข้มงวด กวดขันให้เร็วกว่านี้น่ะ เพราะมีหลาย ๆ ที่รักษาแบบคลุมเครือ พอเวลาไปหาก้อดี แล้วพอหยุดหน้าก้อเละ

Unknown กล่าวว่า...

คนใช้บริการก็ต้องดูดี ๆ นะ ไม่งั้นก็จะเป็นแบบเนี้ย
โฆษณาเดี๋ยวนี้ก็เกินจริงเยอะแยะ

natty กล่าวว่า...

เห็นด้วยนะคะ ทางสถาบันต่างๆ ควรคำนึงถึงความปลอดภัย ของผู้เข้ารับบริการด้วย ไม่ใช่คิดเเต่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนแรกก็มีเพื่อนมาชวนเหมือนกัน ดูก็น่าสนใจแต่คิดเหมือนกันว่าจะขาวได้ตามที่เขาโฆษณาเหรอ!! แต่พอได้อ่านแล้ว จะรีบไปบอกเพื่อนว่ามันน่ากลัวขนาดไหนจ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ต้องมีมาตรการในการตรวจตราให้เข้มงวด พวกเราในฐานะที่เป็นผู้บริโภคจะได้ปลอดภัยในระดับหนึ่ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผู้ประกอบการน่าจะนำจริยธรรมและคุณธรรมมาใช้บ้าง อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง! เห็นแก่ธุรกิจตัวเองจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยถ้าผู้ประกอบการที่จะมีจริยธรรมเพราะไม่ใช่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์โดยไม่ยึดหลักการรักษาหรือการให้บริการที่ดีก้อน่าห่วงนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้วนิติพลละค๋ะ เหมือนกันหรือปล่าว กลัวจังเลย ดีนะไม่ไปใช้บริการ น่ากลัวม๊ากมาก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำตามสูตรโบราณอย่างเช่นเอามะขามขัดก้อน่าจะได้เหมือนกันนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยนะจ๊ะ กับ k.memechan เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ก็สวยได้แล้วค่ะ

kitty กล่าวว่า...

ดูแล้วมีแต่เจ้าของแหล่ะที่ สวยหล่อเด้งอยู่คนเดียว
ไม่น่าเชื่อถือเลย ไม่กล้าเข้า กลัว.....

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากรู้จัง ทำทั้งหน้าเท่าไรจ๊ะ

Sukanya กล่าวว่า...

น่ากลัวนะสมัยนี้ จะทำอะไรก็ดูกันดี ๆ เน้อ

kitty กล่าวว่า...

อยู่อย่างดำ ดำ ดีกว่า ไม่เจ็บตัวด้วย