






1. รับประทานผักและผลไม้ให้มากเป็นประจำ นอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักแล้ว ผักผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อความสวยของคุณ และช่วยลดระดับไขมันโคเรสเตอรอลอย่างได้ผล
3. รับประทานปลา หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมันเป็นประจำโดยเฉพาะเนื้อปลาซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นโปรตีนชั้นดี, และมีกรดไขมัน โอเมก้า 3 ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง ,หรือปลาแซลมอน ปริมาณไขมันที่คุณ ควรรับประทานต่อวัน ไม่ควรเกิน 5-8 ช้อนชานะคะ และหากจะรับประทานสลัดก็ไม่ควรใส่น้ำสลัดมากกว่า 5 ช้อนชา
วัย 20 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้การใช้ AHA จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ครีมกันแดดทุกวัน และหากเลี่ยงแดดแรง ๆ ได้ก็ควรทำค่ะ หรือจะเลือกการขัดผิวด้วยครีมขัดผิวซึ่งผลิตมาเพื่อใช้กับผิวหน้าที่บอบบางก็สะดวกดีค่ะ วิธีขัดผิวที่ถูกต้อง ควรทำหลังจากทำความสะอาดหน้าแล้วแต้มเจลหรือครีมขัดผิวลงบนผิวหน้า 5 จุดคือ บริเวณหน้าผาก แก้มทั้งสองข้างจมูก และคาง เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนางซึ่งมีแรงกดค่อนข้างเบานวดเป็นวงกลมไปในทิศเดียวกัน จะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอก ทำให้ผิวหน้านวลผ่องสดใสขึ้น ทำสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ หลังจากขัดผิวแล้วอย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้ง ซึ่งการขัดผิวจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมสู่ผิวได้ล้ำลึกขึ้น
การดูแล : ผิวหน้าของสาววัยนี้ จะมีปัญหาของริ้วรอยใต้ตา โดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม รอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก จะเริ่มปรากฎชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่ง สดใสก่อนหน้านี้ ก็จะเริ่มขาดความยืดหยุ่น ผิวหน้าจะดูหยาบกร้านขึ้น รูขุมขนโตขึ้น การดูแลผิวจึงต้องครบเครื่องมากขึ้น ทั้งการขัดผิวและมาสค์หน้า จะช่วยขจัดการหลุดลอกของผิวชั้นนอก และช่วยดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างจากรูขุมขนส่วนลึกได้ดี ทำให้หน้าสะอาดกระชับและสดใสขึ้น และสำหรับผิวหน้าที่เริ่มมีริ้วรอย ควรเลือกมาส์คที่มีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลังการพอก
หน้าและล้างสะอาดแล้ว จะทำให้หน้าผ่อง เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการเลือกครีมบำรุงผิวของสาววัยนี้ ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นพิเศษ เพราะผิวหน้าจะเริ่มแห้งมากขึ้น น้ำหล่อเลี้ยงผิวหน้าตามธรรมชาติผลิตน้อยลง และควรเลือกชนิดเนื้อเบาเพื่อไม่ให้ไปอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้การใช้อายเจลหรืออายครีมก็จะช่วยทำให้ผิวรอบดวงตา ชุ่มชื้นและสดใสขึ้น ส่วนครีมกันแดด ก็จำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกวัน มาสก์พอกหน้าแบบประหยัดมาสค์พอกหน้าจากโยเกิร์ตล้างหน้าให้สะอาดซับเบาๆ ด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มือแตะโยเกิร์ต (ให้ใช้ชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้) มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลีงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก หมั่นทำสัปดาห์ละ3 ครั้ง ผิวจะเปล่งปลั่งสดใส
มาสค์พอกหน้าจากมะละกอนำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำไปพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่ง มือเป็นบริเวณที่ฟ้องถึงวัยของคุณได้เช่นกัน เนื่องจากเราใช้มือในการหยิบจับสิ่งของอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการสัมผัสกับสารเคมีก็อาจทำให้ผิวบริเวณนี้หยาบกร้าน เกิดริ้วรอย ดูไม่น่ามองได้
วัย 30 ปีขึ้นไป
การดูแล : เมื่ออายุมากขึ้น ผิวบริเวณนี้จะแห้งและหยาบกร้านมากขึ้น เพื่อชะลอความเหี่ยวย่น การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งมีสารกันแดดด้วย เป็นสิ่งจำเป็นมาก นอกจากนี้ วัยที่มากขึ้น ทำให้การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวโดยธรรมชาติทำได้ช้าลง การขัดผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะจะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสและช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวได้มากขึ้น และหลังจากขัดผิวแล้ว อย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยทุกครั้ง Jeanette Graf ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากนิวยอร์ค แนะว่าการทาครีมบำรุงมือให้ได้ผลดีและไม่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์นั้น ควรทาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเข้านอน และครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอจะช่วยลดเลือนริ้วรอยของผิวได้

ชะอม
ถ้าผมของคุณขาดชีวิตชีวา เจอลมแรงยังแทบไม่กระดิก แล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้ใช้สูตรชะอม โดยใช้ใบชะอมประมาณ 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำสะอาด 3 ถ้วยจนเดือด กรองเอาแต่น้ำเขียวๆ นำไปวางไว้ให้เย็น หลังจากสระผมสะอาดแล้ว นำผ้าขนหนูชุบน้ำชะอมพอหมาดๆ เช็ดถูให้ทั่วศีรษะ จะช่วยคืนสภาพเส้นผมให้ดีขึ้นได้ และยังช่วยไม่ให้ผมแตกปลายอีกด้วย แต่ก็คงต้องทนกลิ่นเหม็นเขียวของชะอมสักหน่อยนะคะ
ตะไคร้
ตะไคร้ที่เราใส่ในต้มยำ นี่แหละค่ะ ใช้แก้ปัญหาผมแตกปลายได้ผลดีทีเดียว ให้ใช้ตะไคร้ 2-3 ต้น นำมาโขลกให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ หลังจากสระผมสะอาดดีแล้วนำน้ำตะไคร้มาชะโลมและนวดให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้สัก 10 นาที จึงล้างออก ทำกันเป็นประจำสัก 2 เดือน รับรองได้ว่า ปัญหาผมแตกปลาย จะไม่ใช่เรื่องกวนใจคุณอีกต่อไปค่ะ
กล้วย
นำกล้วยน้ำว้าสุกมาบด หยดน้ำมันอัลมอนด์ลงไปเล็กน้อย ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมานวดลงบนเส้นผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ ,15 นาที เพื่อให้ส่วนผสม ค่อยๆซึมเข้าไป แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมแห้งกรอบ ขาดชีวิตชีวา ก็จะฟื้นคืนชีพได้